เป็นหัวหน้ายังไงไม่ให้เหนื่อย

เพราะเป็นหัวหน้าจึงเหนื่อย…

วิธีพัฒนาตัวเอง พร้อมตัวช่วยสำหรับ manager หน้าเก่าและมือใหม่

การเป็นหัวหน้า ไม่ว่าจะมือใหม่เจอทีมเก่า หรือหัวหน้ามือเก๋าต้องมาคุมทีมใหม่ ก็ต้องใช้เวลาในการจัดการระบบความคิด และปรับตัวทั้งนั้น แต่เมื่อเราต้องรับบทบาทใหม่ๆ หรือเจอทีมใหม่ จะมีอะไรที่ช่วยให้การปรับตัวง่ายขึ้นได้บ้าง

ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

หลายครั้งที่เรามักยึดติดกับทักษะ หรือ hard skills เพราะกลัวประสบการณ์และความสามารถจะไม่มีคุณค่าเมื่อต้องมาเป็น manager ทั้งๆ ที่จริงแล้ว soft skills ต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการคุมทีม สิ่งสำคัญ คือต้องผ่อนคลาย ไม่ให้เครียดจนเกินไป และไม่สงสัยในความสามารถของตัวเอง เริ่มต้นด้วยความคิดในแง่บวก แล้วทุกสิ่งจะค่อยๆ เป็นไปในทางที่ดี

 

คอร์สแนะนำ: Leadership Essentials (เรียน Online)

  1. Leadership Essentials – Inside Your Head – ทักษะจำเป็นสำหรับผู้นำ – วิธีบริหารจัดการความคิดของเรา
  2. Leadership Essentials – Team Decision-Making – ทักษะจำเป็นสำหรับผู้นำ – การตัดสินใจร่วมกันในฐานะทีม
  3. Leadership Essentials – Team Well Being – ทักษะจำเป็นสำหรับผู้นำ – ดูแลทีมให้พัฒนา และทำงานอย่างสบายใจ

 

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และติดตามผลงานจนลุล่วง

 

การตั้งเป้าหมาย นอกจากจะทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีความหมายแล้ว ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบในการตัดสินใจและการกระทำของตัวเราด้วย การตั้งเป้าหมายที่ดี ควรจะต้องเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่ไม่ง่ายเกินไป และยังท้าทายความสามารถ

  • ลองตั้งเป้าหมายโดยใช้เวลาเป็นตัวบังคับ เช่น เราจะทำอะไรให้เสร็จภายในวันนี้ ภายในอาทิตย์นี้ หรือภายในปีนี้
  • เลือกสิ่งที่วัดผลได้ เป็นไปได้ และเป็นสิ่งที่เราอยากทำ (อย่าตั้งเป้าหมายหลายอย่างพร้อมกันในคราวเดียว)
  • จัดลำดับความสำคัญของแต่ละเป้าหมาย เริ่มทำจากเป้าหมายใหญ่ก่อน
  • สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองเสมอ ให้ทำเป้าจนสำเร็จลุล่วง
  • อย่าลืมติดตามผลงานอย่างสม่ำเสมอ

 

ไม่มีประโยชน์ที่จะตั้งเป้าหมาย ถ้าไม่คิดจะเอาจริงเอาจังกับมัน ถ้าคุณรู้สึกกดดัน ลองแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนย่อยๆ ให้เกิดกำลังใจที่จะทำให้สำเร็จทีละนิด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากเปลี่ยนงาน ให้เวลาตัวเอง 2-3 เดือนที่จะหางานใหม่ให้ได้ ลองหาข้อมูลบริษัทที่อยากร่วมงานด้วยสัก 2-3 อาทิตย์ แล้วค่อยหาข้อมูลเชิงลึก เริ่มพูดคุยกับคนในวงการเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ แล้วค่อยไปขั้นตอนเตรียมตัวสัมภาษณ์

 

คอร์สแนะนำ: Self-Leadership 1 & 2 (เรียนในเวิร์คชอป ที่ The Garage ตึก FYI Center)

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อพัฒนาตัวเอง โดยฝึกการสังเกตและกำจัดข้อจำกัดที่คุณสร้างขึ้นมา เพื่อสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จ

 

 

ทำความรู้จักกับลูกทีม (และให้ลูกทีมรู้จักคุณด้วย)

 

ในฐานะหัวหน้า คุณต้องรู้จักลูกทีมแต่ละคนให้ดี และสร้างบรรยากาศการทำงานให้ทุกคนอยากรู้จักกัน อาจจะใช้วิธีไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน หรือชวนกันกินกาแฟเพื่อให้คุ้นเคยกันมากขึ้น

 

เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นแล้ว บทสนทนาเรื่องงานก็จะเป็นธรรมชาติขึ้น คุณจะได้รู้จักวิธีการทำงานของลูกทีมแต่ละคน ความคาดหวังที่มีต่อหัวหน้า และโค้ชลูกทีมให้พร้อมสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพเป้าหมายที่ท้าทายได้ง่ายขึ้นเมื่อพวกเขาเปิดใจ

 

การที่คุณจะแชร์วิธีการทำงาน สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ รวมไปถึงเป้าหมาย และความคาดหวังจากทีม ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเช่นกันเรื่องสำคัญอย่างการวัดผลการทำงาน ก็จะสามารถสื่อสารให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นเมื่อการสื่อสารคล่องตัว

 

คอร์สแนะนำ: e3 Leader Series (เรียนในเวิร์คชอป ที่ The Garage ตึก FYI Center)

คอร์สนี้จะช่วยให้การพูดคุยกับลูกทีมเป็นเรื่องง่ายอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในบทสนทนาแบบ 1:1 นอกจากเทคนิคการคุย ที่จะทำให้ลูกทีมไว้ใจและเปิดใจกับคุณมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ทีมเกิด ownership และมีแรงผลักดันไปถึงเป้าหมายด้วยตัวเอง

 

 

แก้ปัญหาเร่งด่วนให้ทีม

 

เพราะทีมงานทุกทีมมี pain point เมื่อเข้าใจการทำงานของทีมและรู้ว่ามีปัญหาอะไรที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ให้รีบช่วยแก้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ

 

ปัญหาที่มีอยู่แล้ว อาจจะเป็นโปรเจคที่ค้างอยู่ ไม่ได้คลอดสักที จบไม่ลง เพราะไม่มีคนตัดสินใจ หรือเป็นการปรับปรุง work flow หรือขั้นตอนการทำงานบางอย่างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรืออาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่การสื่อสารระหว่างแผนก ให้ทุกฝ่ายเข้าใจหน้าที่และความคืบหน้าให้ตรงกัน เท่านี้ก็ได้ใจลูกทีมขึ้นอีกเยอะ

 

คอร์สแนะนำ: Building and Leading High-Performance Teams (เรียนในเวิร์คชอป ที่ The Garage ตึก FYI Center)

เป้าหมายยิ่งใหญ่ ทีมต้องยิ่งสามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี คอร์สนี้จะพาคุณและทีมไปอยู่ในสถานการณ์จำลองที่จะทดสอบทั้งความสามารถในการสื่อสาร และวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้ทีมไปถึงเป้าหมาย

 

อย่าพยายามทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน

รู้หรือไม่ การทำหลายๆ อย่างพร้อมกันไป จะทำให้สมรรถภาพในการทำงานต่ำลงถึง 40%!

มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการทำหลายๆ อย่างพร้อมกันหรือ multitasking ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ได้งาน เพราะจริงๆ แล้วเราทำไม่ได้ เราแค่เปลี่ยนไปทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ สลับไปมาด้วยความรวดเร็ว ซึ่งกลับส่งผลให้เราสติหลุดและเสียสมาธิ

 

รู้อย่างนี้แล้ว หยุดทำให้ตัวเองสะดุด จัดการงานไปทีละอย่าง ดีลกับเรื่องทีละเรื่อง นอกจากได้งานเหมือนกันแล้ว ยังไม่เสียสติด้วย!

 

คอร์สแนะนำ: Organization Skills for Managers (เรียนออนไลน์)

เพราะทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องที่ซับซ้อน สามารถจัดการได้ เพียงแค่คุณรู้จักการบริหารจัดเวลา และลำดับความสำคัญให้ดี

 

 

ที่มา:

www.hbrascend.org

Loading

บทความอื่นๆ