ทำไมองค์กรถึงชอบคนปรับตัวเก่ง? นั่นก็เพราะยิ่งเราปรับตัวเก่งเท่าไร ธุรกิจก็เดินหน้าไวเท่านั้น
ปกติแล้วเวลาต้องทำงานอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ต้องย้ายแผนกอย่างงงๆ หรือเปลี่ยนสายงาน เราก็มักจะเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับความเครียดและความกังวลเพราะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คุ้นเคยแต่จะมีคนประเภทหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเจอการเปลี่ยนแปลงกี่ครั้ง ก็ไม่ค่อยมีรีแอคชันแรงๆ สักเท่าไร เพราะพวกเขารู้ว่า ‘ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน’ และเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการได้ ทำให้คนเหล่านี้ปรับตัวได้เร็วกว่าคนอื่น และเผลอๆ คนที่ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงก็คือคนกลุ่มนี้แหละ
คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวว่า “วันนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอน เราไม่รู้ว่าหน้าตาการว่าจ้าง การทำงานเป็นแบบไหน อยู่ที่ว่าเราจะทำยังไงให้พร้อม Future of Work อาจหมายถึง ทำงานแบบใดก็ได้ รูปแบบการว่าจ้างเป็นแบบไหนไม่รู้ คนทำงานวันนี้จึงต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวให้ไวให้เร็ว สิ่งสำคัญคือ เราต้องปรับ mindset ของเราเองในการเดินบนเส้นทางใหม่ ต้องไม่แคร์ว่าเคยทำหรือไม่ หรือ ใครเคยทำมาก่อน แต่เราต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง พาตัวไปหาข้อมูลที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ กำหนดตัวเองให้เรียนทุกวันเพื่อให้ก้าวทันโลก มีทักษะที่เรียกว่า Learning Agility ”
วิกฤติโควิด-19 น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดว่าทำไมการปรับตัวจึงสำคัญในโลกแห่งการทำงาน ย้อนไปปี 2019 คงไม่มีใครทำนายได้ว่าจู่ๆ คนค่อนประเทศจะต้อง Work From Home ซึ่งความจริงแล้ว ถึงแม้จะไม่มีโรคระบาด แต่การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว เพราะแบบนี้ คนปรับตัวเก่ง จึงได้เปรียบกว่าคนอื่นมากในโลกแห่งการทำงาน แล้วคนที่ปรับตัวเก่งและกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงมีลักษณะแบบไหนกัน?
1.มีความเป็นผู้นำ เพราะหากไม่มีคนเริ่ม ก็จะไม่มีคนตาม คนที่ปรับตัวเก่งจึงมักมีความเป็นผู้นำสูงพ่วงเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล มองเห็นภาพรวมว่าองค์กรควรเดินทางไปทิศทางไหน และกล้าลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง
2.ฉลาดรอบรู้ ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นว่าคนที่ปรับตัวเก่งมักจะให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาได้ดี เพราะก่อนการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งความ ‘ยุ่งยาก’ และเต็มไปด้วยปัญหาก่อน ความฉลาดในการวิเคราะห์ปัญหาจากหลายมุมมอง และคิดวิธีแก้ไขได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
3.ถ่อมตัว การถ่อมตนคือการยินดีรับฟังความเห็นของทุกคนในทีม โดยไม่สนว่าเขาอายุน้อยหรือมากกว่าเรา เพราะการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็นจะทำให้ได้ไอเดียที่หลากหลาย ถ้าจำกัดให้คนกลุ่มเดิมแสดงความเห็น ไอเดียที่ได้ก็จะซ้ำๆ เดิม การเปลี่ยนแปลงก็ไม่เกิด
4.ขยันและไม่ย่อท้อ ขึ้นชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องยากกว่าการทำอะไรแบบเดิมอยู่แล้ว ความขยัน อดทน ไม่ย่อท้อและกล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรคจึงเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้เช่นกัน แถมคนปรับตัวเก่งจะไม่หยุดแค่ที่ตัวเอง แต่ยังพยายามกระจายพลังบวกเพื่อปลุกใจคนในทีมให้สู้ต่อด้วย
5.ไกล่เกลี่ยเป็น เจรจาได้ เราไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับองค์กรได้ด้วยตัวคนเดียว คนที่ปรับตัวเก่งจึงมักมีทักษะการสื่อสารและเจรจาที่ดี เพื่อลดความขัดแย้งและทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
6.ทันกระแสทุกเหตุการณ์ คนที่ปรับตัวเก่งมักจะติดตามข่าวสารตลอดเวลาและไม่ตกเทรนด์ เพราะอย่างที่บอกไปว่า ยิ่งเราปรับตัวได้เร็วเท่าไร ธุรกิจก็เดินหน้าไวเท่านั้น