ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่หมุนเร็วขึ้น ยุคที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่รุนแรง ความรู้หรือวุฒิการศึกษาที่เรามีไม่อาจทำให้ก้าวทันโลกได้อีกต่อไป Active Learning หรือการเรียนรู้อย่างตื่นตัวจึงเป็นคำตอบของการเรียนรู้ในยุคที่หุ่นยนต์หรือระบบ AI กำลังอัพเกรดซอฟต์แวร์กันอย่างต่อเนื่อง มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด และค่อยๆ กำจัดจุดอ่อนไปทีละเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโต้ตอบกับมนุษย์ ความสามารถในการเรียนรู้ การสั่งงานด้วยเสียงและทำงานที่สลับซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในที่สุดจะเข้ามามีบทบาทในโลกการทำงานของมนุษย์เรามากขึ้น เราจึงต้องเปลี่ยน Mindset ในการขับเคลื่อนตนเองให้มี Active Learning ตลอดเวลา
ทำไม Active Learning จึงเป็นสิ่งสำคัญในสถานการณ์นี้? เราลองพิจารณาถึงรูปแบบงานในอนาคต ถ้าวันหนึ่งระบบ AI ฉลาดกันมากๆ แล้วจะเหลืองานอะไรให้มนุษย์ทำกันบ้าง? ทุกวันนี้บริษัทใหญ่หลายรายต่างแข่งกันพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมต่างๆ อย่างจริงจัง จนหุ่นยนต์ทำลายข้อจำกัดต่างๆ ของมนุษย์ ทำงานใหญ่ๆ ยากๆ ได้ดีกว่ามนุษย์ โดยไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่มีดราม่าความขัดแย้งเมื่อต้องประสานงานกัน ในขณะที่มนุษย์ยังมี Human Error แต่หุ่นยนต์นั้นกลับแลกเปลี่ยนความรู้กันได้โดยไม่มีปัญหา และพร้อมรับความรู้ข้อมูลข่าวสารทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อ AI ยังเรียนรู้ได้ตลอดเวลา คนก็ต้องมี Active Learning เพื่อเรียนรู้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดเช่นกัน
จากรายงานของ World Economic Forum กล่าวถึงทักษะที่ใช้แรงกายจะมีความสำคัญน้อยลงเพราะหุ่นยนต์และระบบ AI จะเข้ามาแทนที่ รวมถึงงานที่ต้องใช้ความทนทานและความต่อเนื่อง การตรวจเช็คคุณภาพสินค้า และการจัดสรรทรัพยากรและคงคลัง เป็นต้น งานเหล่านี้ได้มีการพัฒนาระบบ AI ให้เข้ามาทำแทนมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่า ความสามารถด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันเรียกว่าก้าวกระโดดจนน่ากลัว
Ginni Rometty ซีอีโอของบริษัท IBM กล่าวว่า “AI จะเปลี่ยนโฉมหน้าของงานแบบ 100% ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า” ในขณะที่งานบางส่วนจะหายไป แต่งานส่วนใหญ่ที่ยังเหลืออยู่นั้นต้องการคนที่สามารถทำงานร่วมกับ AI และ Analytics ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ต้องมีการฝึกอบรมทักษะต่อคนทำงานในวงกว้าง นอกจากนี้ ความรู้หลายๆ ประการที่ได้เรียนในระบบการศึกษาปัจจุบันจะกลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัยหรือมีสิ่งใหม่ๆ มาทดแทนเมื่อจบการศึกษาออกไป ดังนั้น Active Learning จึงเป็นคำตอบของการเรียนรู้ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Active Learning เป็นวิธีการเรียนรู้ที่สำคัญอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะเราไม่สามารถรอให้ใครมาสั่งให้เราต้องเรียน ต้องอ่านหนังสือและต้องพัฒนาตนเอง แต่เราต้องมีความกระตือรือร้นและตื่นตัวที่จะเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา เพิ่มความถี่ในการปรับทักษะ โดยเริ่มวางแผน Strategy ในการเรียนรู้ของเราเอง จัดตารางเวลาในการเพิ่มความรู้ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และนำความรู้นั้นไปปรับใช้ในการตัดสินใจ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์อย่างเหมาะสม ผ่านการลงมือทำด้วยตนเองจนชำนาญและเกิดเป็นทักษะใหม่ๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Active Learning ก้าวมาเป็นทักษะที่รองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
Active Learning ไม่ได้จำกัดแค่การอ่าน หรือการเข้าถึง เพื่อให้ได้ความรู้ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ Soft Skills และเราไม่สามารถเรียนรู้และได้ Soft Skills จากแค่การดูวิดีโอหรือทำแบบทดสอบเท่านั้น แต่เราต้องก้าวข้ามรูปแบบการเรียนรู้เดิมๆ ไปสู่รูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่ทำให้การเรียนรู้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง นอกจากนี้ Active Learning ยังทำให้เรารู้ว่า การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญเพียงแค่หนึ่งคนนั้นไม่เพียงพอสำหรับการเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานในอนาคต แต่ต้องเรียนรู้จากกลุ่มคนที่มารวมตัวกัน เป็นสังคมที่รวมผู้คนที่มีความสนใจและความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ การเรียนรู้ที่จะมอบพื้นที่และเปิดโอกาสให้แสดงความคิดได้อย่างสร้างสรรค์และอิสระ ผ่านการแสดงบทบาทสมมติ การพูดคุย ระดมความคิดเพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ อย่างการได้รับโจทย์ให้แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์ที่ต้องฝึกฝนภาวะการเป็นผู้นำที่ดีในการนำทีม ซึ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นและนำไปใช้จริงได้ง่ายขึ้น